อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ สำหรับการผ่อนคลายสไตล์ฮุกกะ คือการมีหนังสือดีๆวางอยู่ข้างตัว พร้อมที่จะหยิบขึ้นมาอ่าน ปล่อยใจและเวลาให้ไหลไปตามตัวหนังสือที่เรียงร้อยมาอย่างสวยงาม พวกเราเลยอยากจะแนะนำหนังสือเกี่ยวกับฮุกกะ เพื่อให้เพื่อนๆทุกคนเข้าใจวัฒนธรรมแห่งการผ่อนคลายสไตล์แสกนดิเนเวียนไปอีกระดับนะคะ
อ้างอิงจาก 10 Easy Steps To Get Your Hygge On & The Hygge Books That Will Help! โดย Steve Partridge
01 l The Little Book of Hygge. Danish Secrets to Happy Living
โดย Meik Wiking
เรียกได้ว่าเป็นเล่มแรกๆที่ทำให้ทั่วโลกได้รู้จักคำว่า ฮุกกะ กันเลยทีเดียว สำหรับหนังสือของคุณ Meik Wiking เค้าได้ชื่อว่าเป็น CEO แห่งสถาบันวิจัยความสุขในเดนมาร์ก ที่ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจ ที่ทำให้เราได้เห็นว่าทำไมคนเดนมาร์กถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นชาติที่มีความสุขที่สุขระดับต้นๆของโลก พร้อมทั้งยังบอกเล่าสิ่งละอันพันละน้อยที่ทำให้เราเข้าถึงวิถีฮุกกะได้ง่ายขึ้นค่ะ :D
>> https://thailand.kinokuniya.com/bw/9780241283912
02 l The Book of Hygge. The Danish Art of Contentment, Comfort, and Connection โดย Louisa Thomsen Brits
อีกหนึ่งเล่มที่ได้รับความนิยมไม่แพ้เล่มแรก ผลงานการเขียนจากนักเขียนชาวอูกันดา ที่มีคุณแม่เป็นชาวเดนมาร์ก เธอได้รวบรวม เรียงร้อย เรื่องราวการใช้ชีวิตสไตล์ฮุกกะ ด้วยการบรรยายที่สวยงาม ใส่รายละเอียดจนเราสามารถจินตนาการภาพตัวเองตื่นมาตอนเช้า จุดเทียนหอม เดินไปทำกาแฟ และละเลียดไปกับทุกๆนาทียามเช้าอย่างผ่อนคลายกันเลยทีเดียวค่า :D
03 l The Little Book of Lykke. Secrets of the World’s Happiest People โดย Meik Wiking
ผลงานของนักเขียนคนเดิม ที่ได้ออกเดินทางไปทั่วทุกมุมโลก เพื่อไปศึกษา ลุกกะ (ภาษาเดนิช แปลว่า ความสุข) หรือวิถีความสุขของคนชาติอื่นๆ เขาพบว่า ไม่มว่าจะเป็นคนจากที่ไหน ทุกคนล้วนมีความสุขในเรื่องเดียวกันทั้งนั้น รวบรวมมาได้เป็น 6 หัวข้อหลักๆ ด้วยกัน อยากรู้ว่ามีอะไรกันบ้าง ต้องลองไปติดตามกันดู รับรองอ่านแล้วยิ้มมุมปากแน่นอนค่ะ :D
04 l Lagom. Not Too Little, Not Too Much: The Swedish Art of Living a Balanced, Happy Life โดย Niki Brantmark
ออกมาจากเดนมาร์กสักเล็กน้อย เพื่อทำความรู้จักวิถี ลาก็อม ของชาวสวีเดน ที่เชื่อว่าทุกอย่างมีจุดสมดุลของมัน ไม่มากไปหรือน้อยไป เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้ เราจะได้เห็นวิธีการใช้ชีวิตและจัดสมดุลทุกอย่างให้ลงตัวอย่างน่าประหลาดใจ ทั้งเรื่องงาน ครอบครัว อาหาร ฯลฯ เห็นแบบนี้แล้ว นึกถึงทางสายกลางของพระพุทธเจ้าขึ้นมาเลยค่ะ :D
>> https://thailand.kinokuniya.com/bw/9780062748799
05 l Frientimacy. How to Deepen Friendships for Lifelong Health and Happiness โดย Shasta Nelson
ความสัมพันธ์ของคนเราในปัจจุบัน ยิ่งห่างเหินและยิ่งเปราะบางไปด้วยสภาพแวดล้อมต่างๆ นักเขียนและนักพูดมือรางวัล เจ้าของเว็บไซต์ girlfriendcircles.com จะเป็นตัวแทนที่จะมาบอกเล่าวิธีการที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือ คู่รักให้ดีขึ้น ลุ่มลึกขึ้น และมีคุณภาพยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ นอกจากจะช่วยในการเข้าสังคม ยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตอีกด้วยนะคะ :D
06 l How to Break Up with Your Phone. The 30-Day Plan to Take Back Your Life
โดย Catherine Price
ปัญหาสุดคลาสสิคสำหรับเราชาวโลกออนไลน์ เมื่อฮุกกะบอกให้เราเพลาๆการใช้มือถือ แต่มันฟังดูยากเหลือเกิน! นักข่าวสายวิทยาศาสตร์อย่าง Catherine Price ที่จะมาแนะนำกลเม็ดเคล็ดลับที่ช่วยให้เราจัดการชีวิตที่ปราศจากมือถือได้ดีขึ้น ลองได้อ่านดูแล้วจะไม่อยากเชื่อว่า ทริคง่ายๆเหล่านี้ จะช่วยลดการใช้มือถือได้จริงๆค่ะ
07 l Gratitude โดย Oliver Sacks
งานเขียนจากฝีมือของนักประสาทวิทยาขาวอังกฤษที่เชื่อว่า “สมองคือสิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดในโลก” ที่เคยถูกตีพิมพ์ลงใน New York Times โดยเป็นเรื่องราวในช่วงบั้นปลายของชีวิตที่วินิจฉัยพบมะเร็งในร่างกาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความกลัว แต่เป็นความรู้สึกของคุณที่ได้มีชีวิตอยู่บนโลกอันแสนวิเศษ ผู้อ่านหลายท่านบอกว่า อ่านแล้วรู้สึกอิ่มเอมใจและมีความสุขกับทุกย่างก้าวในชีวิตกว่าที่เคยค่า :D
08 l O’s Little Book of Calm & Comfort
โดย The Oprah Magazine
หนึ่งในหนังสือที่ถูกออกมาในซีรีส์ O’s Little Book จากทีมงานนิตยสาร Oprah Magazine ที่รวบรวมงานเขียนจากนัดเขียนชื่อดังกว่า 30 เรื่อง ที่มาบอกเล่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสุขเล็กๆในชีวิต ไปจนถึงการรับมือกับความเจ็บปวดและนำไปสู่ความสุขที่ยั่งยืน รับรองว่าระหว่างที่เพื่อนๆอ่านนั้น จะรู้สึกอิ่มเอมไปกับความสุขเล็กๆที่แสนผ่อนคลายไปตลอดทั้งเล่ม หรือจะตามไปอ่านหนังสือในซีรีส์เดียวกันทั้ง 5 เล่มที่เหลือก็ได้นะคะ :D
09 l Food: A Love Story โดย Jim Gaffigan
ผลงานจากนักแสดงตลกชาวแคนาดา ที่ผันตัวมาเป็นนักเขียนหนังสือถึงขั้นได้เป็น Bestseller ของ New York Times ที่จะมาบอกเล่าเล่าย้อนไปถึงความเป็นมาของทุกแคลอรี่ของเค้า อ่านแล้วก็ยอมรับว่าแต่ละอย่างที่คนอเมริกันกินนี่บางทีก็น่ากิน บางทีก็น่ากลัว แต่อย่างหนึ่งที่จะได้สัมผัส ความรักที่เค้ามีต่ออาหารอย่างสุดหัวใจ เรียกได้ว่า เป็นคนที่มีความสุขกับการกินจริงๆค่ะ :D
เห็นแบบนี้แล้ว ลองแวะไปหาซื้อตามร้านหนังสือใกล้บ้่านกันดูนะคะ
Comments